จากกรณี นายทักษิณ ชินวัตร ประกาศเดินทางกลับเข้าประเทศไทยในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ ขั้นตอนแรกตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จะเป็นผู้รับตัวและทำบันทึกการจับกุมต่างๆ ตามขั้นตอน จากนั้นจะส่งตัวนายทักษิณ ให้กับเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ เพื่อคุมตัวขึ้นรถ และนำตัวไปศาลฎีกาแผนกคดีอาญา รับฟังคำพิพากษาคดีค้างเก่าเรียบร้อย ก็จะต้องควบคุมตัวไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เป็นผู้ต้องขังใหม่ทันที โดยตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการตรวจร่างกายผู้ต้องขังเข้าใหม่ และผู้ต้องขังเข้าออกเรือนจำ พ.ศ.2561
กำหนดไว้ขั้นตอนแรก เจ้าหน้าที่เรือนจำจะดำเนินการตรวจค้นตัวผู้ต้องขังเข้าใหม่และสัมภาระ เช่น เสื้อผ้า หรือสิ่งของมีค่า เครื่องประดับ นาฬิกา สร้อย แหวน พระเครื่อง เป็นต้น
ปกติแล้วเจ้าหน้าที่เรือนจำ จะไม่อนุญาตให้นำสิ่งของผ่านเข้าไปภายในเรือนจำทั้ง ส่วนเสื้อผ้า เจ้าหน้าที่จะเก็บไว้ให้ เพื่อรอญาติติดต่อขอรับกลับไป แต่กรณีที่ผู้ต้องขังแจ้งว่ามีการยื่นขอประกันตัวต่อศาล อยู่ระหว่างรอฟังคำสั่งของศาล เจ้าหน้าที่จะเก็บไว้ให้ก่อน แต่ต้องไม่เกินระหว่าง 7-15 วัน
ส่วนของมีค่า เจ้าหน้าที่จะรับฝากไว้ โดยจะมีการจดบันทึกรายการว่ามีสิ่งของอะไรบ้าง ผู้ต้องขังฝากไว้เมื่อวันที่เท่าไร เมื่อพ้นโทษก็ติดต่อขอรับกลับ หรือจะให้ญาติติดต่อขอรับ
หลังจากตรวจร่างกายและสัมภาระเรียบร้อยแล้ว ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนจัดทำประวัติผู้ต้องขัง โดยเจ้าหน้าที่ต้องระบุประวัติเกี่ยวกับชื่อ นามสกุลของผู้ต้องขัง เลขประจำตัวประชาชน หรือเอกสารแสดงตัว ข้อหาหรือฐานความผิดของผู้ต้องขัง บันทึกลายนิ้วมือหรือสิ่งแสดงลักษณะเฉพาะของบุคคล และตำหนิรูปพรรณ เพื่อตรวจสอบว่าผู้ต้องขังถูกต้องตามหมายศาลไม่ผิดตัว รวมถึงประวัติด้านสภาพของร่างกายและจิตใจ ความรู้และความสามารถ และอื่นๆ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ต้องดูว่าผู้ต้องขัง เป็นผู้กระทำความผิดจากคดีประเภทใด เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนจำแนกลักษณะผู้ต้องขัง เช่น จำแนกผู้ต้องขังจากคดีอุกฉกรรจ์ร้ายแรง คดียาเสพติด หรือคดีที่กระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรงหรือไม่ เพื่อวางมาตรการ หรือ เจ้าหน้าที่ผู้คุมเฝ้าจับตากวดขันเข้มงวดเป็นพิเศษ
เมื่อผ่านกระบวนการทำประวัติแล้ว ก็จะไปยังขั้นตอนการตรวจร่างกายเบื้องต้น เจ้าหน้าที่จะดูว่าผู้ต้องขังมีโรคประจำตัว ยารักษาโรค หรือมีใบรับรองแพทย์ ให้ยื่นแสดงกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเก็บยาไว้ให้ และจะสอบถามถึงการกินยาว่าแพทย์สั่งให้กินยาอย่างไร
เดิมผู้ต้องขังทั้งชายและหญิง ต้องเปลื้องผ้าทั้งหมด เพื่อดูว่าไม่ได้นำสิ่งของ วัตถุอันตราย อุปกรณ์เครื่องมือสื่อสาร หรือยาเสพติดลักลอบเข้าไปในเรือนจำ แต่ปัจจุบันเรือนจำทั่วประเทศมีการติดตั้งเครื่องเอกซเรย์ร่างกายไว้แล้ว จึงใช้เครื่องเอกซเรย์ตรวจร่างกาย
จากนั้นเจ้าหน้าที่จะบันทึกรายงานเกี่ยวกับบาดแผล หรืออาการเจ็บป่วยของผู้ต้องขังก่อนเข้าเรือนจำ เพื่อใช้ยืนยันว่าผู้ต้องขังมีบาดแผลหรืออาการเจ็บป่วยมาก่อนเข้าข้างในเรือนไม่ได้เกิดจากการถูกทำร้าย หลังเข้าเรือนจำและผู้ต้องขังจะต้องเซ็นชื่อกำกับการบันทึกดังกล่าวด้วยตัวเอง
สุดท้ายแพทย์หรือพยาบาลจะใช้ดุลพินิจ หากผู้ต้องขังมีโรคประจำตัวร้ายแรงต้องเข้ารับการรักษาต่อเนื่องก็อาจจะให้ไปทำการกักโรคโควิด-19 ที่ห้องกักโรคของสถานพยาบาลภายในเรือนจำฯ แทน และเมื่อกักโรคครบกำหนดก็จะแยกผู้ต้องขังไปยังหอผู้ป่วยเพื่อรักษาโรคต่อไป
ส่วนการจัดลำดับชั้นนักโทษนั้น จะต้องเป็นกรณีเจ้าตัวเป็นนักโทษคดีเด็ดขาด คือ ศาลมีคำสั่งพิพากษาเรื่องโทษจำคุกเรียบร้อย โดยมีเด็ดขาดชั้นต้น เด็ดขาดชั้นอุทธรณ์ หรือเด็ดขาดชั้นฎีกา
กรณีที่ผู้ต้องขังไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน หรือ เรียกว่าเป็นการต้องโทษครั้งแรก เมื่อเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์พิจารณาองค์ประกอบต่างๆ แล้ว ผู้ต้องขังจะได้รับการจัดลำดับชั้นนักโทษเป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นกลาง ตามกระบวนการแรกรับผู้ต้องขังใหม่ เจ้าหน้าที่เรือนจำจะมีการใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก็สามารถส่งผู้ต้องขังเข้าเรือนจำได้ทันทีคำพูดจาก สล็อตทรูวอเลท